คุณรู้หรือไม่ว่า 80% ของธุรกิจทั่วโลกให้ความเชื่อถือและใช้งานแคมเปญ Google Ads เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การตลาดของพวกเขา ด้วยการครองตลาด SEM ออนไลน์ถึง 91.9% เมื่อเดือนมกราคม 2022 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมและความจำเป็นที่องค์กรต่างๆ ควรให้ความสำคัญกับการทำ Google Ads เพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบ Google Ads จะช่วยจับคู่ Keyword ที่ผู้ใช้ค้นหากับข้อความโฆษณาของคุณ และแสดงผลลัพธ์ที่เป็นโฆษณาในอันดับบนสุด ทำให้ผู้ใช้งานให้ความสนใจกับโฆษณาก่อนเป็นอันดับแรก โดยโฆษณาสามารถกำหนดให้ผู้ใช้งานเข้ามามีส่วนร่วมได้ในหลายรูปแบบ ดังนั้นเราจึงควรทำความเข้าใจวิธีการตั้งค่า Google Ads ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้การลงโฆษณาของธุรกิจมีประสิทธิภาพสูงสุด
สิ่งที่ต้องจำ
- ใช้คำหลักในการสร้างโฆษณาเพื่อเพิ่มโอกาสในการคลิกและคะแนน Quality Score
- การใช้ Negative Keywords จะช่วยกรองการค้นหาที่ไม่เกี่ยวข้องและปรับปรุงการเจาะกลุ่มเป้าหมาย
- ไม่ควรเร่มต้นราคาประมูลสูงเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายมากเกินจำเป็น
- การมี Text Ads หลายชุด รวมถึง 2 Text Ads และ 1 RSA จะช่วยให้เลือกโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
- การตั้งค่างบประมาณและการเสนอราคาที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาภายใต้งบที่จำกัด
ความสำคัญของ Google Ads
Google Ads เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน มีผู้ใช้งาน Google มากกว่า 10 ล้านคนต่อวัน ซึ่งแสดงถึงขนาดและความกว้างขวางของตลาด SEM การใช้เครือข่ายการโฆษณาของ Google ที่หลากหลาย เช่น Search, Display Network, YouTube และอื่นๆ ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและมีต้นทุนที่คุ้มค่า
สถิติผู้ใช้งาน Google ที่มากที่สุดในโลก
ในปี 2020, Google เป็น search engine ที่มีการใช้งานสูงถึง 70% ในตลาดทั่วไป ทำให้สามารถกระจายการโฆษณาไปยังผู้ใช้งานจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของการทำ Google Ads ในการหาลูกค้าใหม่
Google Ads ช่วยให้สามารถเป้าหมายกลุ่มคนที่สนใจสินค้าหรือบริการของเราได้อย่างแม่นยำ มีการเปิดโอกาสในการโฆษณาที่หลากหลาย เช่น Search Ads และ Video Ads ที่คิดค่าใช้จ่ายแบบ CPM ช่วยให้สามารถวัดผลและปรับกลยุทธ์โฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น การจัดการแคมเปญและการวัดผล ทำให้การหาลูกค้ารายใหม่เป็นเรื่องที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดังนั้น Google Ads จึงเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญต่อการทำตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขวาง และมีเครื่องมือช่วยในการวัดผลและปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง
หลักการทำงานของ Google Ads
Google Ads เป็นระบบโฆษณาออนไลน์ที่เชื่อมโยง ผลการค้นหา, เครือข่ายโฆษณา, และ การจับคู่ Keyword ที่ผู้ใช้ค้นหา. ผู้ลงโฆษณาเสนอราคาประมูล (Bid) สำหรับ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ. โฆษณาจะปรากฏในลำดับแรกของผลการค้นหา, ส่งผลให้ผู้ใช้งานสนใจและคลิกเข้าเว็บไซต์มากขึ้น.
Google Ads แสดงโฆษณาในรูปแบบต่างๆ ผ่านเครือข่ายการโฆษณาของ Google. นอกจากนี้ยังแสดงบนเว็บไซต์พันธมิตรต่างๆ ที่เปิดพื้นที่โฆษณา.
การประมูล Keyword และจับคู่กับคำค้นหา
ระบบ Google Ads ประมูล Keyword เพื่อแสดงโฆษณาในผลการค้นหาที่เกี่ยวข้อง. ผู้ลงโฆษณาเลือก Keyword และตั้งค่าราคาประมูลตามความเหมาะสม. ส่งผลให้โฆษณาแบรนด์ปรากฏในผลการค้นหาของผู้ใช้งาน.
การแสดงโฆษณาในผลการค้นหาและเครือข่าย
หลังจากประมูล Keyword Google Ads วิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ เช่น คุณภาพโฆษณา, การแข่งขัน, และความเกี่ยวข้องกับความต้องการของผู้ใช้. กำหนด “Ad Rank” เพื่อแสดงโฆษณาในผลการค้นหา. นอกจากนี้ยังแสดงโฆษณาผ่านเครือข่ายการโฆษณาของ Google ในรูปแบบ Display, YouTube, และแอปพลิเคชัน.
“Google Ads ช่วยเชื่อมต่อธุรกิจกับผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาในผลการค้นหาและทั่วเครือข่ายการโฆษณาของ Google”
ประเภทของโฆษณา Google Ads
Google Ads มีหลายประเภท เพื่อช่วยให้ผู้ลงโฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับสินค้าหรือบริการของตน. มี Google Search Ads, Google Display Network (GDN), YouTube Ads และ Mobile App Ads ให้เลือก.
Google Search Ads
Google Search Ads แสดงผลในหน้าผลการค้นหาของ Google. เป็นที่นิยมเพราะมีผู้ใช้งาน Google มากในการค้นหาข้อมูลและสินค้า.
Google Display Network (GDN)
Google Display Network (GDN) แสดงโฆษณาในรูปแบบแบนเนอร์หรือวิดีโอ บนเว็บไซต์พันธมิตร. คล้ายกับโฆษณาแบบออฟไลน์ ไม่ต้องติดต่อกับเว็บไซต์โดยตรง.
YouTube Ads
โฆษณาบน YouTube มีหลายรูปแบบ เช่น Display Ads, Overlay Ads, Skippable Video Ads, Non-skippable Video Ads, Bumper Ads และ Sponsor Cards. ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาเข้าถึงผู้ชมวิดีโอบน YouTube ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
Mobile App Ads
Mobile App Ads แสดงในแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อเพิ่มยอดดาวน์โหลดและผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน. เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีแอปพลิเคชันเป็นของตัวเอง.
“Google Ads มีรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม”
ผู้ลงโฆษณาสามารถเลือกใช้โฆษณาประเภทต่างๆ ของ Google Ads ตามที่เหมาะสมกับธุรกิจและกลุ่มเป้าหมาย. เพื่อเพิ่มยอดขาย ขยายฐานลูกค้า หรือเพิ่มการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์.
ขั้นตอนการสร้างแคมเปญ Google Ads
การเริ่มต้นใช้งาน Google Ads ต้องเริ่มด้วยการสร้างแคมเปญใหม่ ขั้นตอนแรกคือการกำหนดเป้าหมายของแคมเปญ ซึ่งรวมถึงวัตถุประสงค์ เช่น เพิ่มยอดขาย หรือเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ หลังจากนั้น เราสามารถตั้งค่าแคมเปญให้มีประสิทธิภาพได้ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดงบประมาณ ช่องทางการโฆษณา และเนื้อหาโฆษณา การจัดการแคมเปญอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างยอดเยี่ยม
การกำหนดเป้าหมายของแคมเปญ
การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับแคมเปญ Google Ads นั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้เราสามารถวางแผนและตั้งค่าแคมเปญได้อย่างเหมาะสม เช่น หากเป้าหมายคือการเพิ่มยอดขายก็ควรวางกลยุทธ์การโฆษณาที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้า แต่หากเป้าหมายคือการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ก็ควรเน้นการสร้างแคมเปญที่จะดึงดูดผู้เข้าชมมากขึ้น
การตั้งค่าแคมเปญ
เมื่อกำหนดเป้าหมายของแคมเปญแล้ว ขั้นต่อไปคือการตั้งค่าแคมเปญซึ่งประกอบด้วยหลายส่วน อาทิ การตั้งงบประมาณ การเลือกช่องทางการโฆษณา และการเขียนข้อความโฆษณา โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมาย และบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
“การวางแผนและตั้งค่าแคมเปญ Google Ads อย่างถูกต้องจะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
การจัดกลุ่มและจัดการ Keyword
การจัดกลุ่ม Keyword ในแคมเปญ Google Ads เป็นกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จ ธุรกิจควรแบ่งกลุ่ม Keyword ตามประเภทของสินค้าและบริการที่เสนอ เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการและวัดผล การทำเช่นนี้ช่วยให้ระบุ Keyword ที่มีประสิทธิภาพ และปรับกลยุทธ์ได้ตามความเหมาะสม
การจัดกลุ่ม Keyword ตามประเภทสินค้าและบริการ
การจัดกลุ่ม Keyword ต้องเป็นระบบ โดยแบ่งตามประเภทสินค้าและบริการ เช่น แบรนด์, สินค้าทั่วไป, คู่แข่ง การจัดกลุ่มที่ชัดเจนช่วยกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของแคมเปญได้อย่างเหมาะสม
การใช้ Keyword ที่ประกอบด้วยชื่อแบรนด์ ช่วยเข้าถึงลูกค้าที่คุ้นเคยกับตราสินค้า ในขณะที่ Keyword ทั่วไปที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ช่วยสนับสนุนการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่
ในการบริหารจัดการกลุ่ม Keyword ควรคำนึงถึงงบประมาณที่เหมาะสม ไม่ต้องโฆษณาทุกสินค้า แต่เน้นสินค้าที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดี การใช้ Dynamic Search Ads ช่วยอัตโนมัติสร้างโฆษณาตามเนื้อหาของเว็บไซต์เพิ่มความเกี่ยวข้องและอัตราคลิก
ทำ ads ให้ได้ผล
การกำหนดเป้าหมายและการจัดการแคมเปญ Google Ads เป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่เพียงเท่านั้น การสร้างข้อความโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน. การใช้คำหลัก (Keyword) ที่เกี่ยวข้องในส่วนของ Headline และ Description ช่วยดึงดูดความสนใจ. นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสในการคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของผู้ใช้งาน. สิ่งนี้จะส่งผลต่อการเพิ่มยอดขายและการเติบโตของธุรกิจในที่สุด.
เพื่อให้โฆษณาที่มีประสิทธิภาพ เราควรให้ความสำคัญกับการ สร้างข้อความโฆษณาที่ดึงดูดใจ โดย:
- เลือกใช้คำหลัก (Keyword) ที่สอดคล้องกับสินค้าหรือบริการ และตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้งานกำลังค้นหา
- รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อออกแบบโฆษณาที่ตรงใจพวกเขา
- ทดสอบข้อความโฆษณาหลายรูปแบบ (A/B Testing) เพื่อหาสิ่งที่ดึงดูดลูกค้าได้ดีที่สุด
- ปรับปรุงข้อความโฆษณาอย่างต่อเนื่องตามผลการเรียนรู้และพฤติกรรมของผู้ใช้งาน
“การสร้างโฆษณาที่มีประสิทธิภาพไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อเรารู้จักเข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย”
เมื่อเข้าใจหลักการสร้างโฆษณาที่ดึงดูดใจ ผู้ประกอบการก็จะสามารถสร้าง โฆษณาที่มีประสิทธิภาพ. นี่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ. ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว.
การตั้งงบประมาณและราคาประมูล
การจัดการงบประมาณและราคาประมูลเป็นสิ่งสำคัญในการทำ Google Ads คุณควรกำหนดงบประมาณต่อวันที่เหมาะสม ไม่ควรเกินหรือต่ำเกินไป เพื่อให้โฆษณาแสดงผลต่อเนื่องและมีโอกาสได้รับการคลิกจากกลุ่มเป้าหมาย
การกำหนดงบประมาณต่อวัน
ในการกำหนดงบประมาณโฆษณาต่อวัน ควรพิจารณาว่า 60-150 บาทต่อวัน เป็นช่วงที่เหมาะสม ช่วยให้โฆษณาแสดงผลต่อเนื่องและมีโอกาสได้รับการคลิกจากกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกโฆษณาสินค้าใหม่เพื่อเพิ่มการมองเห็นและทดลองสินค้าใหม่ในตลาด
การตั้งราคาประมูลอย่างเหมาะสม
การตั้งราคาประมูลที่เหมาะสมช่วยให้คุณได้รับต้นทุนโฆษณาที่ไม่แพง ในกรณีของ Discovery Ads คุณสามารถตั้งราคาประมูลที่ 1.5 บาทต่อคลิก เพิ่มอัตรา premium เพื่อเพิ่มราคาประมูลในแต่ละพื้นที่โฆษณา นอกจากนี้ คุณยังสามารถตั้งค่าการปรับราคาเสนอสำหรับวันแคมเปญที่สำคัญแบบอัตโนมัติและมือ
การจัดการด้านงบประมาณและราคาประมูลที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Google Ads และทำให้แคมเปญของคุณประสบความสำเร็จมากขึ้น
การปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณา
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณา Google Ads เราต้องปรับแต่งและทดสอบข้อความอย่างต่อเนื่อง การทดลองใช้ข้อความที่หลากหลายจะช่วยให้เราพบคำพูดที่ดึงดูดผู้ชมได้มากที่สุด นอกจากนี้ การติดตามและวิเคราะห์ผลลัพธ์เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ในการโฆษณา
การปรับแต่งข้อความโฆษณา
การปรับแต่งข้อความโฆษณาเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ เราควรทดสอบข้อความที่หลากหลาย เพื่อหาข้อความที่ดึงดูดลูกค้าได้ดีที่สุด การวัดผลอย่างเป็นระบบจะช่วยให้เราเข้าใจผลกระทบของโฆษณาได้ดียิ่งขึ้น
การทดสอบและปรับปรุงโฆษณา
การทดสอบและปรับปรุงโฆษณาอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องติดตามข้อมูลเช่น จำนวนการเข้าชม, จำนวนการคลิก และการเข้าชมสินค้า เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพ จากนั้น เราสามารถปรับปรุงโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
FAQ
คืออะไร Google Ads มีความสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์อย่างไร?
Google Ads เป็นบริการโฆษณาที่เข้าถึงผู้ใช้งาน Google ซึ่งมีจำนวนมากถึงกว่า 91.9% ของตลาด SEM ในปี 2022 ตามสถิติ. ทำให้การโฆษณาผ่าน Google Ads สามารถกระจายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง. นอกจากนี้ Google Ads ยังช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดค่าโฆษณาและประเมินผลได้อย่างละเอียด.
ซึ่งถือเป็นประโยชน์ที่ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเพิ่มศักยภาพและโอกาสในการหาลูกค้ารายใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
ระบบการทำงานของ Google Ads คืออะไร?
การทำ Google Ads นั้นอาศัยหลักการเชื่อมโยง Keyword ที่ผู้ใช้ค้นหากับข้อความโฆษณาที่ถูกกำหนดไว้ในระบบ. โดยจะมีการเสนอราคาประมูล (Bid) สำหรับ Keyword ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ. เพื่อให้โฆษณาของแบรนด์นั้นแสดงผลอยู่ในลำดับแรกๆ ของผลการค้นหา.
ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานเกิดการสนใจและคลิกเข้ามายังเว็บไซต์มากขึ้น. นอกจากนี้ Google Ads ยังสามารถแสดงโฆษณาในรูปแบบต่างๆ ผ่านเครือข่ายการโฆษณาของ Google ทั้งในผลการค้นหา และเว็บไซต์พันธมิตรต่างๆ ที่เปิดพื้นที่ให้ลงโฆษณา.
มีรูปแบบของโฆษณา Google Ads อะไรบ้าง?
Google Ads มีรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย ได้แก่ Google Search Ads ซึ่งแสดงผลในหน้าผลการค้นหา, Google Display Network (GDN) ที่แสดงผลในรูปแบบแบนเนอร์หรือวิดีโอบนเว็บไซต์พันธมิตร, YouTube Ads ที่แสดงในชานเนลยูทูป.
รวมถึง Mobile App Ads ที่แสดงในแอปพลิเคชันต่างๆ ซึ่งรูปแบบเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม และเลือกใช้ช่องทางที่เหมาะสมกับสินค้าหรือบริการของตน.
ขั้นตอนในการสร้างแคมเปญ Google Ads มีอะไรบ้าง?
เมื่อเข้าสู่ระบบ Google Ads ขั้นตอนแรกคือการสร้างแคมเปญใหม่. ผู้ลงโฆษณาต้องกำหนดเป้าหมายของแคมเปญว่าต้องการบรรลุวัตถุประสงค์ใด เช่น เพิ่มยอดขาย เพิ่มโอกาสในการขาย หรือเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์.
ซึ่งจะช่วยให้การตั้งค่าแคมเปญเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ. อาทิ การกำหนดงบประมาณ ช่องทางการโฆษณา และข้อความโฆษณา เป็นต้น. โดยการจัดการแคมเปญที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
การจัดกลุ่ม Keyword ในแคมเปญ Google Ads มีความสำคัญอย่างไร?
การจัดกลุ่ม Keyword ในแคมเปญ Google Ads เป็นสิ่งสำคัญ. ควรแบ่งกลุ่ม Keyword ตามประเภทของสินค้าและบริการที่ธุรกิจเสนอ. เพื่อให้สามารถบริหารจัดการและวัดผลการใช้ Keyword ในแต่ละกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
ซึ่งจะช่วยให้สามารถระบุ Keyword ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ตามความเหมาะสม.
วิธีการสร้างข้อความโฆษณาที่มีประสิทธิภาพใน Google Ads?
นอกจากการกำหนดเป้าหมายและการจัดการแคมเปญ Google Ads แล้ว. สิ่งสำคัญอีกประการคือการสร้างข้อความโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ. โดยการใช้ Keyword ที่เกี่ยวข้องในส่วนของ Headline และ Description ให้ครอบคลุม.
เพื่อช่วยดึงดูดความสนใจและเพิ่มโอกาสในการคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของผู้ใช้งาน. ซึ่งจะส่งผลต่อการเพิ่มยอดขายและการเติบโตของธุรกิจในที่สุด.
การบริหารจัดการงบประมาณและราคาประมูลใน Google Ads ควรทำอย่างไร?
การบริหารจัดการงบประมาณและราคาประมูลใน Google Ads เป็นอีกปัจจัยสำคัญ. ควรกำหนดงบประมาณต่อวันให้เหมาะสม ไม่ตั้งสูงจนเกินไปหรือต่ำจนเกินไป. เพื่อให้โฆษณาแสดงผลได้อย่างต่อเนื่องและมีโอกาสได้รับการคลิกจากกลุ่มเป้าหมาย.
นอกจากนี้ การตั้งราคาประมูลที่เหมาะสมก็จะช่วยให้ได้รับต้นทุนโฆษณาที่ไม่แพงจนเกินไป. ซึ่งการบริหารจัดการด้านงบประมาณและราคาประมูลที่ดีจะส่งผลให้ Google Ads มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น.
ในการปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณา Google Ads ควรทำอย่างไร?
เพื่อให้โฆษณา Google Ads มีประสิทธิภาพสูงสุด. ผู้ลงโฆษณาควรมีการปรับแต่งและทดสอบข้อความโฆษณาอย่างต่อเนื่อง. โดยการทดลองใช้ข้อความที่แตกต่างกัน เพื่อหาข้อความที่สามารถดึงดูดความสนใจและเพิ่มอัตราการคลิกได้มากที่สุด.
นอกจากนี้ ยังควรมีการติดตามและวิเคราะห์ผลการแสดงผลของโฆษณา. เพื่อนำมาปรับปรุงกลยุทธ์.