คุณรู้หรือไม่ว่า Google Display Network (GDN) สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้มากถึง 90% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก? นี่คือพลังอันน่าทึ่งของการโฆษณาบนเครือข่ายของ Google ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Google Ads Search และ Display Network เพื่อช่วยให้คุณเลือกรูปแบบโฆษณาที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้แบรนด์ หรือการเพิ่มยอดขายโดยตรง

โฆษณา GDN เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังของ Google Ads ด้วยความสามารถในการแสดงโฆษณาบนเว็บไซต์กว่า 2 ล้านแห่งทั่วโลก ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพ

ข้อควรรู้สำคัญ

  • GDN ครอบคลุมเว็บไซต์กว่า 2 ล้านแห่งทั่วโลก
  • มีรูปแบบโฆษณาหลากหลาย ทั้งข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ
  • สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ตามข้อมูลประชากรศาสตร์และความสนใจ
  • ใช้ระบบการจ่ายเงินแบบ CPC และ CPM
  • เหมาะสำหรับสร้างการรับรู้แบรนด์และเผยแพร่สินค้าใหม่

ความแตกต่างระหว่าง Google Search Ads และ Display Network

Google Search Ads และ Display Network เป็นเครื่องมือโฆษณาออนไลน์ที่แตกต่างกัน มาพร้อมกับความสามารถที่หลากหลาย เราจะพิจารณาแต่ละแพลตฟอร์มอย่างละเอียด

รูปแบบการแสดงผลโฆษณา

Google Search Ads แสดงบนหน้าผลการค้นหา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทันท่วงที ในขณะที่ Google Display Ads เน้นการโฆษณาบนหน้าเว็บต่างๆ ในรูปแบบต่างๆ เช่น แบนเนอร์ ข้อความ หรือวิดีโอ GDN มีมากกว่า 20 รูปแบบให้เลือก

กลุ่มเป้าหมายและการเข้าถึง

Search Ads เข้าถึงผู้ใช้ที่กำลังค้นหาสินค้าหรือบริการโดยตรง ในขณะที่ Display Network เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น ครอบคลุมผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน การสร้างแคมเปญโฆษณาบน GDN สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย เช่น ตามความสนใจ ข้อมูลประชากร หรือพฤติกรรมในการใช้งาน

วัตถุประสงค์ทางการตลาด

Search Ads มุ่งเน้นการขายและการทำธุรกรรมโดยตรง ในขณะที่ Display Network เน้นการสร้างการรับรู้แบรนด์และความสนใจ GDN เหมาะสำหรับการสร้างแบรนด์และเพิ่มการรับรู้ แต่อาจต้องใช้งบประมาณสูงกว่า ทั้งสองสามารถใช้ร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม

Google Search Ads คืออะไร

Google Search Ads เป็นโฆษณาที่แสดงบนหน้าผลการค้นหาของ Google เมื่อผู้ใช้พิมพ์คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของเรา โฆษณาเหล่านี้ปรากฏในรูปแบบข้อความ ซึ่งแตกต่างจากแบนเนอร์โฆษณาออนไลน์ที่พบในเครือข่าย Google Display Network

จุดเด่นของ Google Search Ads คือความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความตั้งใจซื้อสูง ผู้ใช้กำลังค้นหาสินค้าหรือบริการโดยตรง ทำให้มีโอกาสในการขายสูงกว่าโฆษณาบนเว็บไซต์พันธมิตร

ข้อมูลจาก HootSuite Digital Marketing Statistics 2019 ระบุว่า Google Search ในประเทศไทยมีผู้ใช้มากกว่า 400 ล้านคนต่อเดือน โดยเฉลี่ยวันละ 13 ล้านคน ซึ่งแสดงถึงศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

การใช้ Google Search Ads เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดขายและดึงดูดลูกค้าที่พร้อมซื้อสินค้าหรือบริการในทันที ผู้ลงโฆษณาสามารถควบคุมงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจ่ายเฉพาะเมื่อมีผู้คลิกโฆษณาเท่านั้น

ข้อดีของการใช้ Google Search Ads

Google Search Ads เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดขายอย่างรวดเร็ว มาดูข้อดีหลักๆ กัน

การเข้าถึงผู้ใช้ที่มีความตั้งใจซื้อสูง

Google Search Ads ช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าที่กำลังค้นหาสินค้าหรือบริการโดยตรง ทำให้มีโอกาสปิดการขายได้สูงมาก เมื่อเทียบกับการตลาดดิจิทัลด้วย GDN ที่เน้นสร้างการรับรู้แบรนด์

ควบคุมงบประมาณได้ง่าย

เรากำหนด CPC สูงสุดได้เอง ทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ไม่ต้องกังวลเรื่องเกินงบ ต่างจาก GDN ที่คิดเป็น CPM ซึ่งอาจทำให้ควบคุมยากกว่า

วัดผลและปรับปรุงได้รวดเร็ว

Google Search Ads ให้ข้อมูลแม่นยำ เช่น จำนวนคลิก อัตราการคลิก และอัตราการแปลงเป็นลูกค้า ทำให้เราวัดผลและปรับแคมเปญได้ทันที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงผู้ชมเป้าหมาย

ด้วยข้อดีเหล่านี้ Google Search Ads จึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับธุรกิจที่ต้องการผลลัพธ์เร็วและวัดผลได้ชัดเจน

ข้อจำกัดของ Google Search Ads

Google Search Ads มีข้อจำกัดหลายประการ ที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ประการแรก การสร้างการรับรู้แบรนด์อาจจำกัด เนื่องจากข้อจำกัดของข้อความที่แสดง ไม่มีภาพหรือวิดีโอ ทำให้ไม่สามารถดึงดูดสายตาได้เท่ากับโฆษณา GDN นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จำกัดในการนำเสนอข้อมูล เพราะมีจำนวนตัวอักษรจำกัด

การแข่งขันสูงในคีย์เวิร์ดยอดนิยมอาจทำให้ต้นทุนต่อคลิกสูงขึ้น ซึ่งอาจไม่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก Search Ads ไม่เหมาะกับสินค้าหรือบริการที่ผู้บริโภคยังไม่รู้จักหรือไม่มีการค้นหา เพราะจะไม่มีคนค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง

ในขณะที่การโฆษณาบนเครือข่ายของ Google แบบ Display สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างกว่า แต่ Search Ads จำกัดอยู่เฉพาะคนที่ค้นหาคีย์เวิร์ดเท่านั้น ทำให้อาจพลาดโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ที่ยังไม่รู้จักแบรนด์

การใช้ Search Ads เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับแคมเปญการตลาดที่ต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง

แม้จะมีข้อจำกัด แต่ Search Ads ยังคงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการเข้าถึงลูกค้าที่มีความตั้งใจซื้อ เราควรพิจารณาใช้ร่วมกับการโฆษณารูปแบบอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดโดยรวม

โฆษณา GDN คืออะไร

Google Display Network หรือ GDN เป็นเครือข่ายโฆษณาที่แสดงบนเว็บไซต์พันธมิตรของ Google ช่วยให้แบรนด์สามารถโฆษณาบนหน้าเว็บต่างๆ ได้หลายล้านเว็บไซต์ทั่วโลก. GDN ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง. พวกเขาสามารถโฆษณาบนเว็บไซต์ที่ตรงกับความสนใจ เช่น เว็บไซต์สำหรับผู้ชื่นชอบรถยนต์ หรือช่อง YouTube รีวิวผลิตภัณฑ์ความงาม.

รูปแบบการแสดงผลของ GDN

GDN มีรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย. มีทั้งข้อความ, ภาพนิ่ง, ภาพเคลื่อนไหว และวิดีโอ. ขนาดแบนเนอร์ยอดนิยมสำหรับ GDN ได้แก่ 160*600, 300*250, 468*60 และ 728*90.

การออกแบบภาพโฆษณาและปรับแต่งการส่งมอบเป็นสิ่งสำคัญ. สิ่งนี้ช่วยให้แคมเปญ GDN ประสบความสำเร็จ.

เครือข่ายเว็บไซต์ที่แสดงโฆษณา GDN

โฆษณา GDN ไม่จำกัดเฉพาะเว็บไซต์ของ Google เท่านั้น. แต่ยังแสดงบนเว็บไซต์อื่นๆ เช่น YouTube, Blogspot, หนังสือพิมพ์ออนไลน์. เว็บรีวิวผลิตภัณฑ์ความงาม, แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ และเว็บสตรีมมิ่งเพลง.

การใช้ GDN เพิ่มโอกาสในการขายผ่านหลายช่องทาง. ช่วยให้การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น. โฆษณาบนเว็บไซต์ต่างๆ ทำให้โอกาสในการขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ.

ข้อดีของการใช้ Google Display Network

Google Display Ads เป็นเครื่องมือทรงพลังในการสร้างแคมเปญโฆษณาออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ. การใช้ GDN มีข้อดีหลายประการที่น่าสนใจ. มันช่วยให้แคมเปญโฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพสูงขึ้น.

การวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่า GDN ช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ. จากการศึกษากลุ่มตัวอย่าง 800 คน พบว่าผู้ที่เห็นโฆษณาจากเว็บไซต์อื่นมีความสนใจและจดจำแบรนด์ได้ดีกว่า. นี่เป็นข้อดีสำคัญในการสร้างแบรนด์ที่มั่นคง.

นอกจากนี้ GDN ยังช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างน่าทึ่ง. 60% ของผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ในสหรัฐฯ ยอมรับว่าตัดสินใจซื้อหลังจากเห็นโฆษณาบนเว็บไซต์อื่น. นี่เป็นข้อดีที่ทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้เร็วขึ้น.

  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวาง ผ่านเครือข่ายเว็บไซต์หลายแสนแห่ง
  • สร้างการรับรู้แบรนด์ด้วยภาพและวิดีโอที่น่าสนใจ
  • ทำ Remarketing เพื่อดึงลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้

การใช้ GDN ร่วมกับ Google Search ช่วยลดต้นทุนต่อการซื้อ (CPA) ลงได้ถึง 2%. นอกจากนี้ยังเพิ่มอัตราการคอนเวิร์ชันโดยเฉลี่ย 20%. ทำให้การสร้างแคมเปญโฆษณาออนไลน์มีประสิทธิภาพสูงสุด.

ด้วยเหตุนี้ Google Display Network จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์และเพิ่มยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ.

ข้อจำกัดของการใช้ Google Display Network

Google Display Network (GDN) เป็นเครือข่ายโฆษณาที่มีพลังมาก แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ. GDN ครอบคลุมเว็บไซต์และแอปกว่า 2 ล้านแห่งทั่วโลก. ทำให้สามารถเข้าถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตได้มากกว่า 90% แต่ประสิทธิภาพอาจไม่สูงเท่า Search Ads ในบางด้าน.

อัตราการคลิกที่ต่ำกว่า Search Ads

แบนเนอร์โฆษณาออนไลน์บน GDN มักมีอัตราการคลิกต่ำกว่า Search Ads. เนื่องจากผู้ชมไม่ได้กำลังค้นหาสินค้าหรือบริการโดยตรง. การแสดงโฆษณาบนเว็บไซต์พันธมิตรอาจไม่ตรงกับความสนใจของผู้ชมเสมอไป ทำให้การตอบสนองน้อยลง.

การควบคุมตำแหน่งแสดงผลที่จำกัด

GDN มีข้อจำกัดในการควบคุมตำแหน่งแสดงผลโฆษณา. โฆษณาอาจปรากฏบนเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ. ส่งผลให้ยากต่อการวัดผลเชิงยอดขายโดยตรง.

นอกจากนี้ ผู้ชมอาจเห็นโฆษณาซ้ำๆ จนเกิดความรำคาญ. ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อพฤติกรรมการซื้อ.

แม้ GDN จะมีข้อจำกัด แต่ก็ยังเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ. เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มการมีส่วนร่วมกับลูกค้าและเพิ่มยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ. การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การสร้างโฆษณาที่น่าสนใจ และการติดตามผลอย่างต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการใช้งาน GDN.

เปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่าง Search Ads และ Display Ads

การตลาดดิจิทัลด้วย GDN และ Search Ads มีความแตกต่างอย่างชัดเจน. Search Ads มักให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในแง่ของอัตราการคลิกและการแปลงเป็นลูกค้า. สิ่งนี้เป็นเพราะว่าโฆษณานี้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้โดยตรง. ในทางกลับกัน GDN มีข้อดีในการสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง.

สถิติแสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายในสื่อโฆษณาดิจิทัลในไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก. มีการเติบโตร้อยละ 16 เทียบกับปีก่อน. นี่เป็นเครื่องหมายของความนิยมที่เพิ่มขึ้นของทั้ง Search Ads และ GDN.

Search Ads เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดขายโดยตรง. ในขณะที่ GDN ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงผู้ชมเป้าหมายในวงกว้าง.

Display Ads มีต้นทุนต่อคลิกที่ต่ำกว่า Search Ads. ทำให้เหมาะสำหรับแคมเปญที่ต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์ในงบประมาณที่จำกัด. การเลือกใช้รูปแบบโฆษณาใดขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ทางการตลาดของแต่ละธุรกิจ.

ในปี 2563 คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายสื่อโฆษณาดิจิทัลจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3. ประมาณ 19,610 ล้านบาท. นี่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของทั้ง Search Ads และ Display Ads ในกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของธุรกิจไทย.

กลยุทธ์การใช้ Search Ads และ Display Ads ร่วมกัน

การใช้ Search Ads และ Display Ads ร่วมกัน เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย. เราสามารถใช้ Google Display Network (GDN) เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์. จากนั้นใช้ Search Ads เพื่อกระตุ้นการขาย. วิธีนี้ช่วยให้เราครอบคลุมทุกขั้นตอนการตัดสินใจซื้อของลูกค้า.

การใช้ Remarketing

Remarketing เป็นเทคนิคที่ทรงพลังมาก. เราสามารถใช้โฆษณา GDN เพื่อติดตามผู้ที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา. แสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่พวกเขาสนใจ ช่วยเพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อสินค้า.

การสร้าง Brand Awareness ควบคู่กับการขาย

เราใช้ Display Ads บน Google Display Network เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง. แสดงโฆษณาบนเว็บไซต์พันธมิตรของ Google ในขณะเดียวกัน. เราใช้ Search Ads เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่กำลังค้นหาสินค้าของเรา.

การผสมผสานระหว่าง Search Ads และ Display Ads ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณา. ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและกระตุ้นยอดขายไปพร้อมกัน.

การเลือกใช้ Search Ads หรือ Display Ads ให้เหมาะกับธุรกิจ

การเริ่มต้นด้วยการสร้างแคมเปญโฆษณาออนไลน์จำเป็นต้องเลือกประเภทโฆษณาที่เหมาะสมกับเป้าหมายธุรกิจ. เราจะแนะนำวิธีเลือกระหว่าง Search Ads และ Google Display Ads เพื่อความเหมาะสมกับธุรกิจของคุณ.

Search Ads เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดขายอย่างรวดเร็ว. สินค้าที่มีการค้นหาสูงหรือมีคู่แข่งน้อยจะเหมาะสม. สามารถเข้าถึงลูกค้าที่กำลังมองหาสินค้าหรือบริการของคุณโดยตรงได้.

Google Display Ads เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์. เปิดตัวสินค้าใหม่ หรือต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น. สามารถนำเสนอภาพลักษณ์ของแบรนด์ผ่านสื่อที่หลากหลายได้.

การเลือกประเภทโฆษณาเกี่ยวข้องกับงบประมาณ, ระยะเวลา และเป้าหมายทางการตลาด. ธุรกิจที่มีงบจำกัดอาจเริ่มต้นด้วย Search Ads เพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็ว. ส่วนธุรกิจที่ต้องการสร้างแบรนด์ในระยะยาวควรพิจารณา Display Ads.

ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน การวางแผนและติดตามผลอย่างต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ. การสร้างแคมเปญโฆษณาออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพต้องมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง.

ตัวอย่างการใช้งาน Search Ads และ Display Ads ที่ประสบความสำเร็จ

การใช้ Search Ads และ Display Ads อย่างมีประสิทธิภาพสามารถนำพาผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับธุรกิจได้ เรามาดูวิธีการที่ทำให้พวกเขาสามารถประสบความสำเร็จได้

ร้านอาหารท้องถิ่นแห่งหนึ่งใช้ Search Ads โดยเลือกคีย์เวิร์ดเฉพาะพื้นที่ ส่งผลให้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 30% ภายใน 3 เดือน นอกจากนี้ แบรนด์เสื้อผ้าใช้แบนเนอร์โฆษณาออนไลน์สวยงามผ่าน Display Ads สร้างการรับรู้แบรนด์ใหม่ได้อย่างน่าทึ่ง

บริษัทท่องเที่ยวใช้ทั้งสองรูปแบบร่วมกันอย่างชาญฉลาด พวกเขาใช้ Display Ads สร้างแรงบันดาลใจผ่านภาพสวยงาม และใช้ Search Ads เพื่อปิดการขายแพ็คเกจทัวร์ ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน

การแสดงโฆษณาบนเว็บไซต์พันธมิตรผ่าน Display Network ช่วยให้แบรนด์เครื่องสำอางเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น พวกเขาใช้วิดีโอสั้นๆ สาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ยอดขายออนไลน์พุ่งสูงขึ้นถึง 80% ในไตรมาสเดียว

ความสำเร็จเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการใช้ Search Ads และ Display Ads อย่างเหมาะสมสามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจได้ ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้รูปแบบใด การวางแผนที่ดีและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ

เทคนิคการสร้างแคมเปญโฆษณาให้มีประสิทธิภาพ

การสร้างแคมเปญโฆษณาที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ เราจะแนะนำเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้แคมเปญของคุณประสบความสำเร็จ

การเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม

คีย์เวิร์ดเป็นหัวใจสำคัญของแคมเปญ Google Ads เราควรเลือกคีย์เวิร์ดที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และมีปริมาณการค้นหาสูง แต่การแข่งขันไม่สูงเกินไป การใช้เครื่องมือวางแผนคีย์เวิร์ดของ Google จะช่วยให้เราค้นพบคีย์เวิร์ดที่มีศักยภาพ

การออกแบบแบนเนอร์โฆษณาที่น่าสนใจ

แบนเนอร์โฆษณาที่ดีควรมีภาพที่โดดเด่น ข้อความที่ชัดเจน และมี Call-to-Action ที่กระตุ้นให้ผู้ชมคลิก การใช้ภาพที่แสดงคนจริงใช้สินค้าจะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมได้มากกว่าภาพสินค้าเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ การใช้วิดีโอที่มีภาพชัดเจนและข้อความกระชับก็สามารถเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วมได้อย่างมีนัยสำคัญ

การวัดผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

การทดสอบและวัดผลเป็นสิ่งสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญ เราควรใช้เครื่องมือ Ad Strength และ Asset reporting ของ Google เพื่อประเมินผลงานและระบุสินทรัพย์ที่มีผลกระทบ การใช้ฟีเจอร์ Drafts และ Experiments ช่วยให้เราสามารถทดสอบและเปรียบเทียบโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เราควรให้เวลาเพียงพอในการทดสอบโฆษณาเพื่อประเมินผลการดำเนินงานของแคมเปญอย่างถูกต้อง

FAQ

ความแตกต่างระหว่าง Google Search Ads และ Google Display Network คืออะไร

Google Search Ads แสดงโฆษณาแบบข้อความบนหน้าผลการค้นหาของ Google เมื่อผู้ใช้ค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง. ส่วน Google Display Network แสดงโฆษณาแบบแบนเนอร์บนเว็บไซต์พันธมิตรของ Google. มีรูปแบบโฆษณาที่หลากหลายทั้งข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และวิดีโอ.

วัตถุประสงค์ของ Google Search Ads และ Google Display Network คืออะไร

Google Search Ads มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการขายโดยตรง เนื่องจากเข้าถึงผู้ใช้ที่มีความตั้งใจซื้อสูง. ส่วน Google Display Network เน้นเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และความสนใจในสินค้าหรือบริการมากกว่า.

ข้อดีของการใช้ Google Search Ads คืออะไร

ข้อดีสำคัญของ Google Search Ads คือ การเข้าถึงผู้ใช้ที่มีความตั้งใจซื้อสูง. การควบคุมงบประมาณได้ง่ายผ่านการกำหนด CPC สูงสุด. สามารถวัดผลและปรับปรุงแคมเปญได้รวดเร็วจากข้อมูลที่แม่นยำ เช่น จำนวนคลิก อัตราการคลิก และอัตราการแปลงเป็นลูกค้า.

ข้อจำกัดของ Google Search Ads คืออะไร

ข้อจำกัดของ Google Search Ads ได้แก่ การแสดงเฉพาะข้อความจึงจำกัดการสร้างการรับรู้แบรนด์. การแข่งขันสูงในคีย์เวิร์ดยอดนิยมอาจทำให้ต้นทุนต่อคลิกสูง. ไม่เหมาะกับสินค้าหรือบริการที่ผู้บริโภคยังไม่รู้จัก.

Google Display Network คืออะไร

Google Display Network หรือ GDN คือเครือข่ายโฆษณาแบบดิสเพลย์ของ Google ที่แสดงบนเว็บไซต์พันธมิตรทั่วโลกมากกว่า 1 ล้านเว็บไซต์. มีรูปแบบโฆษณาหลากหลายทั้งข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และวิดีโอ. เหมาะสำหรับสร้างการรับรู้แบรนด์และเผยแพร่สินค้าใหม่.

ข้อดีของการใช้ Google Display Network คืออะไร

ข้อดีสำคัญของ GDN คือ การสร้างการรับรู้แบรนด์ได้ดีด้วยการใช้ภาพและวิดีโอ. การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างกว่า Search Ads โดยสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียดตามความสนใจและพฤติกรรม. เหมาะสำหรับโปรโมทสินค้าหรือบริการใหม่ รวมถึงการทำ Remarketing เพื่อติดตามกลุ่มเป้าหมายที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์.

ข้อจำกัดของการใช้ Google Display Network คืออะไร

ข้อจำกัดของ GDN ได้แก่ อัตราการคลิกที่ต่ำกว่า Search Ads เนื่องจากผู้ใช้ไม่ได้มีความตั้งใจซื้อสูง. การควบคุมตำแหน่งแสดงผลมีข้อจำกัด อาจปรากฏบนเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ. ยากต่อการวัดผลเชิงยอดขายโดยตรง เนื่องจาก GDN เหมาะสำหรับสร้างการรับรู้แบรนด์มากกว่าการขาย.

ควรเลือกใช้ Search Ads หรือ Display Ads สำหรับธุรกิจของฉัน

การเลือกใช้ Search Ads หรือ Display Ads ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ทางการตลาดของธุรกิจ. โดยทั่วไปแนะนำให้เลือก Search Ads สำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดขายทันที. สินค้ามีการค้นหาสูง หรือมีคู่แข่งน้อย. และเลือก Display Ads สำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์ สินค้าใหม่ หรือต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกว้าง.

ควรใช้ Search Ads และ Display Ads ร่วมกันหรือไม่ อย่างไร

การใช้ Search Ads และ Display Ads ร่วมกันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณา. ใช้ Display Ads สร้างการรับรู้แบรนด์แล้วตามด้วย Search Ads เพื่อปิดการขาย. หรือใช้ Remarketing ผ่าน Display Network เพื่อติดตามผู้ที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์. นอกจากนี้การสร้าง Brand Awareness ด้วย Display Ads ควบคู่กับการขายผ่าน Search Ads จะช่วยครอบคลุมทุกขั้นตอนการตัดสินใจซื้อของลูกค้า.

ลิงก์ที่มา

tida
tida

Would you like to share your thoughts?

Your email address will not be published. Required fields are marked *